วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559

วิธีดูแลแมวเปอร์เซีย


แอดมินรักแมวมากค่ะ แต่ทั้งชีวิตก็เคยเลี้ยงแต่แมวไทยบ้านขนสั้น ๆ มาตลอด แมวพันธุ์ขนยาวอย่าง แมวเปอร์เซีย นี่ห่างไกลการได้เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ เห็นเพื่อนหลายคนเลี้ยงกันก็เห็นเจ้านายแมวเปอร์เซียของเพื่อนขนสวยเป็นเงางาม ไม่พันกันให้ยุ่งวุ่นวาย มันต้องมีเคล็ดลับอะไรสักอย่างสิน่า...
วันนี้ Catdeva.com จะนำเกร็ดน่ารู้ เคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับการดูแลแมวเปอร์เซียมาฝากกันค่ะ
วิธีดูแลแมวเปอร์เซีย          
แมวเปอร์เซียแม้จะมีอุปนิสัยเงียบ ๆ  แต่ก็เป็นแมวที่ปราดเปรียว และเป็นมิตรทั้งกับเด็ก และสัตว์ชนิดอื่น แมวเปอร์เซียเป็นแมวพันธุ์ขนยาว ที่รักสะอาด เขาจะทำความสะอาดตัวเองอย่างดีอยู่แล้วค่ะ แต่ทั้งนี้พวกเราทาสแมวผู้ซื่อสัตย์ สามารถช่วยเจ้านายของเราได้ด้วยการแปรงขนให้เป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องขนพันเป็นก้อน และความสกปรกต่าง ๆ ที่อาจทำให้เจ้านายแมวเปอร์เซียของเราเจ็บป่วยได้
การดูแลขน หรือเรียกแบบฝรั่งว่า กรูมมิ่ง เหล่าทาสก็สามารถทำได้เองที่บ้านนะคะ
อย่างแรกที่ต้องทำเมื่อทาสแมวต้องการกรูมมิ่งเจ้านายคือทำให้เจ้านายไม่เกร็งต้องรู้สึกผ่อนคลายเพราะหากเจ้านายแมวเปอร์เซียรู้สึกว่าคุณกังวลแล้วละก็พวกเขาก็จะกังวลตามเราไปด้วยค่ะ
นอกจากนี้การเตรียมอุปกรณ์ จัดวางไว้ให้สามารถหยิบใช้ได้สะดวกจะทำให้การกรูมมิ่งเจ้านายราบรื่นรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพราะในการกรูมมิ่งครั้งแรก หากคุณหลงลืมและลุกไปหยิบอุปกรณ์ จนต้องปล่อยให้เจ้านายรอ พวกเขาจะจำค่ะและมักจะส่งผลให้การกรูมมิ่งในครั้งต่อๆ ไปเป็นเรื่องที่ยากเย็นมากยิ่งขึ้น
แมวเปอร์เซียจะเริ่มทำการกรูมมิ่ง อาบน้ำเสริมสวยได้ตั้งแต่อายุประมาณ 8 – 10 สัปดาห์ โดยในครั้งแรกต้องกรูมมิ่งด้วยเวลาที่สั้นที่สุดค่ะ และเพิ่มเวลา เพิ่มขั้นตอนไปเรื่อยๆ ตามอายุของเจ้านายเปอร์เซีย
ขั้นตอนการกรูมมิ่ง จัดวางเจ้านายให้ส่วนท้องอยู่บนโต๊ะให้มั่นเหมาะ จากนั้นใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดน้ำมันส่วนเกินบนขนของเจ้านาย โดยเช็ดให้ทั่วบริเวณที่ต้องการ จากนั้นใช้แปรงขนให้ทั่วทั้งตัว ซึ่งการหมั่นแปรงขนให้เจ้านายเปอร์เซียทุกวันนั้น จะช่วยไม่ให้ขนพันกันเป็นก้อน ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค เห็บ หรือหมัดได้นั่นเองค่ะ
บริเวณใบหน้า รอบดวงตา แนวจมูก ร่องน้ำตาของแมวเปอร์เซีย ควรใส่ใจทำความสะอาดอย่างดีค่ะ ใช้แปรงขนาดเล็กให้เหมาะกับใบหน้าแปรงขนส่วนเกิน ใช้สบู่ขจัดคราบมันทำความสะอาดแนวจมูกด้วยนิ้วมือหรือCotton budsค่ะ
แปรงสำหรับแปรงขนแมวเปอร์เซีย หรือแมวพันธุ์ขนยาวโดยทั่วไป ที่เหล่าทาสต้องมีติดบ้าน จะเป็น 2 ชนิดนี้ค่ะ เรียกว่า Greyhound Combและ Slicker Brushซึ่งมีหลายขนาด และแต่ละขนาดใช้กับบริเวณส่วนใดของแมวบ้าง เหล่าทาสสามารถปรึกษากับร้านขายอุปกรณ์กรูมมิ่งที่เชื่อถือได้เลยค่ะ
showtech-anti-static-comb_ir2b-qf
[CR:http://s3-ap-southeast-2.amazonaws.com/shopfrontpro/254/images/detailed/0/showtech-anti-static-comb_ir2b-qf.jpg] = Greyhound Comb
groomaxSlickerBrush
[CR:http://www.net-thrift.com/images/groomaxSlickerBrush.jpg] = Slicker Brush
การอาบน้ำให้แมวเปอร์เซีย ควรอาบน้ำให้อย่างน้อยเดือนละครั้งและต้องรีบทำให้ขนแห้งสนิท เพื่อป้องกันความชื้นสะสมที่ขนก่อให้เกิดโรคผิวหนัง โรคเชื้อรา หรืออาจก่อให้เป็นโรคปอดบวม ทั้งนี้การอาบน้ำจะช่วยขจัดไขมันส่วนเกิน กลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดี ที่สำคัญยังทำให้เจ้านายแมวเปอร์เซียของเราผ่อนคลายอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้การเรื่องการขับขับถ่ายของเจ้านายแมวเปอร์เซียก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพราะเจ้านายของเราเป็นพันธุ์ขนยาว หากไม่ดูแลกระบะทรายให้สะอาดอยู่เสมอ ก็จะทำให้เจ้านายสกปรก ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้
การเลือกทรายแมวให้เจ้านายที่เหมาะสมก็มีส่วนช่วยเรื่องความสะอาดได้ค่ะเพราะทรายแมวมีผลิตออกมาหลายประเภททั้งประเภทที่ไม่จับเป็นก้อนเวลาโดนปฏิกูลของเจ้านาย ต้องตักทิ้งอยู่บ่อย ๆ หากปล่อยให้สิ่งขับถ่ายของเจ้านายเต็มกระบะจะส่งกลิ่นเหม็นรบกวนจนเจ้านายไม่ยอมมาใช้งานแน่นอนค่ะ ประเภทที่จับตัวเป็นก้อนเวลาตักทิ้งทำความสะอาดจะสะดวกแก่เหล่าทาสแต่ห้ามทิ้งทรายลงในชักโครกเด็ดขาดเพราะจะอุดตันได้ ประเภทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทรายแมวชนิดนี้จะทำจากวัสดุที่ย่อยสลายในธรรมชาติได้เช่นขี้เลื่อยเศษไม้สนเป็นต้น
เหล่าทาสเลือกใช้ทรายแมวกันได้ตามงบประมาณและหมั่นตรวจเช็คกระบะทรายให้สะอาดอยู่เสมอๆแค่นี้เจ้านายแมวเปอร์เซียของเราก็มีความสุขที่สุดแล้วค่ะ
หากทาสแมวมีกำลังทรัพย์ สามารถทำห้องปรับอากาศให้เจ้านายเปอร์เซียของเราได้เลยค่ะ เพราะหากเจ้านายอยู่ในที่อากาศร้อนจัดจนเกินไป จะทำให้เกิดอาการหอบได้ ที่สำคัญอีกทั้งยังต้องระวังไข้หวัดแมวในหน้าฝนอีกด้วยนะคะ
อาหารการกินของแมวเปอร์เซีย 
แมวเปอร์เซียก็เหมือนแมวทั่วไปสามารถกินอาหารสำเร็จรูปได้ค่ะ เพียงแต่เหล่าทาสต้องพิถีพิถันในการเลือกอาหารสำหรับเจ้านายแมวเปอร์เซีย ด้วยเจ้านายที่อาจได้รับการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมติดตัวมานั่นเอง อาหารแมวที่ควรเลือก ควรมีโปรไบโอติคที่ช่วยให้เจ้านายมีภูมิคุ้มกันการย่อยอาหาร, ช่วยเรื่องการเผาผลาญอาหารและสุขภาพโดยรวมควรให้อาหารเสริมไลซีนเพื่อเสริมสุขภาพเนื้อเยื่อของทางเดินหายใจและตา
วิธีสังเกตอาหารที่จะช่วยเสริมสิ่งที่แอดมินบอกไปข้างต้นได้แก่อาหารที่มีส่วนผสมของฟักทอง, น้ำมันปลาแซลมอนหรือน้ำมันปลาอื่นๆ, วิตามินโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินE , B12ตลอดจนมีส่วนผสมของสารEchinacea สกัดจากConeflower ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและกระตุ้นความแข็งแรงภายในร่างกายทุกส่วนนั่นเองค่ะ
สำหรับแมวเปอร์เซียหลังคลอดควรเสริมด้วยเนื้อไก่ต้ม นมแพะ เพื่อเพิ่มพลังงานให้กับแม่แมว นอกจากนี้ทาสแมวต้องหมั่นสังเกตลูกแมวเปอร์เซียที่เพิ่งคลอด หากมีตัวไหนไม่ได้รับน้ำนมเพียงพอต้องป้อนนมแพะ เพื่อให้เขาได้เจริญเติบโตแข็งแรงทันกันกับสมาชิกในครอกเดียวกันค่ะ
อายุขัยและสุขภาพของแมวเปอร์เซีย
โดยปกติแล้ว แมวเปอร์เซียจะมีอายุขัยเฉลี่ยที่14 - 15 ปี ทั้งนี้หากต้องการให้เขามีอายุยืนยาวเท่าอายุเฉลี่ย ทาสต้องดูแลสุขภาพของเจ้านายบ่อย ๆ ค่ะ เพราะแมวเปอร์เซียไม่ว่าจะสายพันธุ์ประเภทใด มักจะมีโรคประจำตัวที่ตกทอดกันมาทางพันธุกรรม ดังเช่นอาการจมูกตีบทำให้หายใจลำบากหรือหายใจเสียงดังโรคทางทันตกรรม อาการตาแฉะอาการไวต่อความร้อนโรคผิวหนังที่ส่งผลให้ขนร่วง หรือแม้แต่โรคไต เมื่อเจ้านายเปอร์เซียของเรามีอายุครบกำหนด เหล่าทาสแมวจึงควรพาไปฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอค่ะ
เพราะ Catdeva.com เชื่อเสมอว่า พวกเราทาสแมวของเจ้านายแมวเปอร์เซีย หรือเจ้านายพันธุ์อื่น ๆ ล้วนแล้วแต่ต้องการให้เจ้านายอยู่กับทาสไปนาน ๆ นอกจากความรักแล้ว การหมั่นเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด ก็เป็นส่วนช่วยให้เจ้านายมีสุขภาพที่แข็งแรง อายุยืนยาวอยู่กับพวกเราไปได้นาน
ในครั้งต่อไป จะมีเกร็ดน่ารู้ และเคล็ดลับเกี่ยวกับแมวสายพันธุ์ใด ติดต่อได้ที่ Catdeva.com นะคะ 
ที่มา : www.catdeva.com