วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ก่อนซื้อขายแมว ควรระวังอะไร? ไม่ให้ตัดสินใจพลาด!



ก่อนซื้อขายแมว ควรระวังอะไร? ไม่ให้ตัดสินใจพลาด!

            สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างน้องแมวน่ารักๆ ถือว่าเป็นเพื่อนซี้ตัวโปรดของใครหลายคนเลยจริงไหมคะ? แต่ก่อนจะจ่ายแพงซื้อเขามาเลี้ยง จะดูแค่ความน่ารักของน้องอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องเลยค่ะ ที่เราควรเช็คก่อนการซื้อขายแมวทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจจริงๆ ว่าได้น้องแมวอย่างที่ต้องการ และแฮปปี้ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย วันนี้เราเลยมีคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ควรระวังและควรเช็คก่อนซื้อขายแมวทุกครั้ง มาฝากกันค่ะ

   1.ควรเช็คฟาร์มหรือคนที่เราติดต่อซื้อขายแมวทุกครั้ง ว่าไว้ใจได้ไหม? ได้มาตรฐานหรือเปล่า
เช่น อาจจะเช็คว่ามีใบเพ็ด ใบวัคซีนตามที่เราต้องการครบไหม โดยเฉพาะถ้าตัวเราไม่ได้มีความรู้ในเรื่องของน้องแมวหรือการเลี้ยงแมวมากนัก ควรจะศึกษาก่อนซื้อเพิ่มเติมด้วยนะคะ เช่น ลักษณะของแมวที่ดีจริงๆ ตามสายพันธ์ที่อยากเลี้ยงเป็นยังไง อาจจะพอรู้คร่าวๆ ว่าควรดูยังไงก็ได้ค่ะ จะได้ระวังไม่ถูกหลอกขายเอาได้ง่ายๆ

   2.เช็คสุขภาพของแมวด้วยตัวเอง
เช่น การสังเกตจากภายนอกอย่างเรื่องของตา ไม่ควรตาแดง หูกับก้น ก็ควรจะสะอาดไม่ใช่เต็มไปด้วยคราบของเสียสะสมไว้ น้ำหนักของน้องก็ไม่ควรเบาเกินไป ลองเช็คโดยการอุ้มดูก็ได้ค่ะ เพราะบางทีน้องๆ ที่ขนฟูๆ พออุ้มจริงอาจจะเบากว่าที่คิด แปลว่าน้องอาจหนักไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ อาจเช็คเพิ่มเติมตามผิวหนัง ว่ามีแผลอักเสบตรงจุดไหมไหม ความยืดหยุ่นของผิวเป็นปกติหรือเปล่า รวมถึงเช็คเรื่องการได้ยินของน้องแบบง่ายๆ ได้นะคะ ด้วยการดีดนิ้ว และเช็คเรื่องการโฟกัสสายตา ด้วยของเล่นล่อ แค่นี้ก็พอรู้คร่าวๆ ก่อนการซื้อขายแมวได้แล้ว ว่าสุขภาพของน้องๆ โอเคจริงไหม?

   3.เช็คโรคที่อาจติดตัวน้องมาด้วย
เพื่อป้องกันในกรณีที่บางบ้านอาจจะมีน้องแมวอยู่แล้ว ถ้ารับตัวใหม่มาแบบมีโรคแต่เราไม่รู้ ก็อาจพามาติดตัวที่อยู่ในบ้านได้ ถ้ายังไม่แน่ใจลองแยกน้องแมวตัวใหม่ซัก 7 วันเพื่อดูอาการก่อนก็นะคะ เพื่อความชัว นอกจากนี้ เราเสียเงินซื้อขายแมวกันทั้งที ก็อยากได้ตัวที่มีสุขภาพดี แข็งแรง จริงไหมคะ? ดังนั้นแนะนำให้พาน้องไปตรวจสุขภาพถ้าทำได้ หรือถามข้อมูลจากผู้ขายให้แน่ใจเลยก็ได้ค่ะ ว่าน้องได้รับวัคซีนอะไรมาแล้วบ้าง เช่น ไข้หัดหวัดแมว ที่ปกติต้องมีการฉีดกันทุกปี รวมถึงโรคฮิตๆ อย่างลูคีเมียหรือเอดส์แมวด้วย ซึ่ง 2 โรคนี้เราลองเช็คเองจากชุดตรวจได้เลยนะคะ ว่าน้องกำลังป่วยอยู่ไหม

เพราะในปัจจุบันนี้ มีฟาร์มหรือผู้ขายที่ไม่ได้มาตรฐานมากมาย เข้ามาใช้ประโยชน์จากการซื้อขายแมว และเอาความรักแมวของผู้ซื้อมาทำกำไร ทำให้หลายๆ ท่านอาจถูกหลอกขาย หรือถูกโกงเอาได้ง่ายๆ  โดยเฉพาะแมวสายพันธุ์ราคาสูงหลักหมื่นขึ้นไป อย่างเปอร์เซีย หรือสก็อตติสโฟลด์ ดังนั้น ตัวเราเองก็ควรหาความรู้ก่อนซื้อขายแมวให้พร้อมด้วยนะคะ จะได้มั่นใจมากขึ้น ว่าได้น้องแนวตรงตามที่ตั้งใจไว้ และไม่ต้องห่วงว่าจะถูกหลอกให้เจ็บใจกันอีกต่อไป

ที่มา : http://www.catdeva.com
FB : http://www.facebook.com/catdevathai/

วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2561

10 เคล็ดไม่ลับก่อนรับเลี้ยงแมวจรที่ทาสแมวควรทราบ

10 เคล็ดไม่ลับก่อนรับเลี้ยงแมวจรที่ทาสแมวควรทราบ



     กลับมาแล้วกับ Catdeva.com ที่มาพร้อมเกร็ดน่ารู้เคล็ดไม่ลับสำหรับทาสแมวใจบุญ...
     แอดมินกลับมาแล้วค่ะกลับมาพร้อมความคิดที่่ว่ามีแมวจรเยอะเหมือนกันนะดังที่หลายๆท่านเห็นกันในเฟซบุ๊กและสื่อโซเชียล ซึ่งมีการโพสต์ประกาศหาบ้านให้แมวจรทั้งลูกแมวและแมวโตเต็มวัย มีหลายท่านรับแมวจรเหล่านี้ไปเลี้ยงบ้างก็ช่วยกันแชร์ประกาศหาบ้านออกไปเพื่อจะมีใครสักคนได้เห็นความน่ารักน่าเอ็นดูของเหล่าแมวจรตัวน้อยให้มากขึ้น
     การรับเลี้ยงแมวจรทำให้รอยยิ้มของทาสแมวเปล่งประกายแต่ก็มีหลายครั้งที่เจ้าของคนใหม่ยังไม่เตรียมพร้อมในการเลี้ยงต่างๆทำให้เป็นเหตุจนเจ้านายตัวน้อยถูกส่งตัวกลับคืนอย่างที่มีให้เห็นกันอยู่หลายเคส Catdeva.com จึงขอเป็นอีกหนึ่งช่องทางช่วยทำให้แมวจรได้บ้านใหม่กันอย่างยั่งยืน ใน... 10 เคล็ดไม่ลับก่อนรับเลี้ยงแมวจรที่ทาสแมวควรทราบ
1.พื้นที่
     ว่าด้วยเรื่องพื้นที่แม้จะไม่มีกฎตายตัวเรื่องพื้นที่ในการเลี้ยงแมวที่แน่ชัดนัก จริงอยู่ที่การเลี้ยงแมวไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะแต่การเลี้ยงในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆก็อาจสร้างภาระให้กับแมวของเราได้เหมือนกันค่ะดังนั้นทาสแมวที่ต้องการเลี้ยงเจ้านายให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดควรเลี้ยงในบ้านที่มีพื้นที่ให้เจ้านายได้เดินเล่นวิ่งเล่นมากกว่าการเลี้ยงภายในหอพัก หรือในคอนโดมิเนียมเนื่องจากการเลี้ยงในห้องพักแคบๆ จะทำให้เจ้านายเกิดความเครียดสะสมจนล้มป่วยได้ง่ายมากกว่าแมวที่เลี้ยงในบ้านนอกจากนี้คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์การแอบเลี้ยงก็ทำให้ผิดกฎระเบียบเสี่ยงต่อการถูกไล่ออกจากที่พักได้ด้วยค่ะใครพักคอนโดเป็นไปได้ก็ควรตัดใจเรื่องเลี้ยงแมวไปก่อนเพื่อรอยยิ้มของทาสแมวและของเจ้านายอย่างยั่งยืนค่ะ
2.ค่าใช้จ่าย
     การเลี้ยงสัตว์จำเป็นต้องใช้เงินพอสมควรเลยค่ะเมื่อแรกเลี้ยงเราก็ต้องพาไปตรวจสุขภาพฉีดวัคซีนตามกำหนด ไหนจะมีค่าอาหารค่าทรายแมวค่าของเล่นแมวต่างๆที่ทาสแมวชอบซื้อ หากแมวป่วยจนต้องหาหมอก็จะมีค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นมาอีกด้วยสำหรับน้องๆนักเรียนนักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง หากต้องเลี้ยงแมวแต่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านี้คนเดียวพี่ Catdeva.com แนะนำว่าพักโครงการไว้ก่อน ระหว่างนี้ก็หารายได้พิเศษเก็บออมไว้เป็นค่าใช้จ่ายของการเลี้ยงแมวในอนาคตค่ะ
3.เวลา
     แม้แมวจะเป็นสัตว์ที่มีโลกส่วนตัวสูงแต่อย่างไรก็ตามทาสแมวควรมีเวลาให้กับเจ้านายอย่างเต็มที่ด้วยค่ะบ่อยครั้งที่เลี้ยงแมวในพื้นที่ปิดเมื่อเจ้าของไม่อยู่แมวจะเกิดอาการเครียดจนนำไปสู่การป่วยด้วยโรคต่างๆตามมาสำหรับทาสแมวที่อยู่กัน 1 คนกับแมว 1 ตัว หากต้องเดินทางไปไหนเป็นเวลานาน ควรนำเจ้านายไปฝากญาติ หรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ หรือฝากโรงแรมแมวก็ได้ค่ะ ซึ่งโรงแรมแมวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งบริการสำหรับทาสแมวนักเดินทางเชียวนะ
4.อายุขัย
     โดยพื้นฐานเฉลี่ย แมวจะมีอายุขัยอยู่ที่ประมาณ 10 ปี สำหรับทาสแมวบ้านไหนเลี้ยงและดูแลเจ้านายเป็นอย่างดี ก็อาจมีอายุยืนมากถึง 20 ปีเลยค่ะ การเลี้ยงดูแมวในช่วงอายุต่าง ๆ จะมีความแตกต่างกันออกไป แบ่งเป็นช่วงวัยใหญ่ ๆ ได้ดังนี้ค่ะ
     - แมวเด็ก ลูกแมวจะมีความซน และอยากรู้อยากเห็นหนักมาก งานหลักของเจ้านายในวัยนี้ มีแค่ กิน เล่น ขับถ่าย นอน ช่วงนี้ทาสแมวอย่างเราก็ต้องอดทนกันก่อนนะคะ ข้าวของอะไรที่แตกหักง่ายเก็บเข้าที่เข้าทางไว้ก่อน
     -
แมววัยรุ่น จากความซน เป็นคึกคักพร้อมออกล่าอาณาเขต และผสมพันธุ์ สำหรับแมวตัวผู้หากเลี้ยงแบบเปิด แมวมีอิสระในการเดินเที่ยว ทั้งออกไปตระเวนสร้างเขตอาณานิคม ยิ่งเป็นช่วงติดสัดก็ให้เหล่าทาสแมวเผื่อใจไว้เจ็บได้เลยค่ะ ว่าเจ้านายจะหายจากบ้านไปหลายวันหน่อย
     - แมวชรา แมวที่อายุ 10 ปีขึ้นไป สภาพร่างกายของเขาเทียบเท่าคนในวัย 60 ปีเพราะฉะนั้นความปราดเปรียวต่าง ๆ ก็ลดน้อยถอยลง จากที่ออกไปวิ่งเล่น เจ้านายก็จะนอนติดบ้านมากขึ้น โรคภัยเริ่มรุมเร้าบ่อยขึ้น ช่วงวัยนี้ทาสแมวต้องเอาใจใส่เป็นอย่างดีค่ะ
5.อาหาร
     การเลือกอาหารจะสอดคล้องกับช่วงวัยของเจ้านายแมวของเราค่ะ
     - แมววัยเด็ก แรกเกิดมาดูดนมแม่ดีที่สุด หากแม่แมวมีนมไม่เพียงพอ ผู้เลี้ยงสามารถให้นมแพะ หรืออาหารแทนนมสำหรับลูกแมวได้ค่ะ แต่!!! ห้ามให้ลูกแมวกินนมวัวเด็ดขาด เพราะลูกแมวไม่สามารถย่อยเลคโตสในนมวัวที่มีปริมาณมากได้ หากเผลอให้เจ้านายกินเข้าไป ก็จะมีอาการปวดท้อง หรือท้องเสียได้ อันตรายสุด ๆ เมื่อโตขึ้นมาอีกหน่อย สามารถให้อาหารเปียกสำหรับลูกแมวได้ค่ะ
     -
แมววัยรุ่น แมวในวัยนี้ให้ได้ทั้งอาหารเปียก และอาหารเม็ดซึ่งอาหารแต่ละแบบ ก็จะมีรสชาติให้เลือกหลากหลาย เช่น รสปลาทู รสปลาทูน่า รสทะเล เป็นต้น ทาสแมวอย่างเราสายเปย์อยู่แล้ว สับเปลี่ยนรสชาติให้เจ้านายชิมได้เลยค่ะ
     -
แมวชรา ควรให้อาหารรสชาติไม่เค็มจนเกินไป และหมั่นสังเกตพฤติกรรมการกินของเจ้านาย ปรับให้เหมาะสมค่ะ

อาหารแมว600x400

6.ลักษณะนิสัย
     แมวก็เหมือนกับมนุษย์ ที่แต่ละตัว ก็มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป เมื่อรับแมวมาเลี้ยงใหม่ เหล่าทาสแมวควรหมั่นสังเกตว่าเจ้านายแต่ละตัวมีอุปนิสัยอย่างไร บางตัวอาจจะอยากรู้อยากเห็น บางตัวนิ่ง ๆ บางตัวเป็นผู้เสียสละ เมื่อสังเกตแล้วพบว่าตัวใดตัวหนึ่งมีพฤติกรรมที่ผิดแปลกไป ควรพาไปพบแพทย์เนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อการป่วยค่ะ
7.สุขภาพ
     สุขภาพของแมวที่ดี เกิดได้ด้วยปัจจัยหลายอย่างค่ะ เช่น
- การดูแลเอาใจใส่ ทาสแมวต้องแสดงความรักแก่เจ้านายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เจ้านายมีสุขภาพจิตดี แจ่มใส
-
ร่างกายแข็งแรง ทาสแมวต้องพาเจ้านายไปตรวจสุขภาพเป็นประจำตามแพทย์สั่ง และฉีดวัคซีนให้ครบตามจำนวนด้วยนะคะ ซึ่งวัคซีนสำคัญ ๆ และอายุที่ควรนำไปฉีด ได้แก่
วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-หวัดแมว (เพิ่ม โรคติดเชื้อคลามัยเดีย) อายุ 8 สัปดาห์
วัคซีนป้องกันโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว อายุ 10 สัปดาห์
วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-หวัดแมว โรคลิวคีเมีย และวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า อายุ 12 สัปดาห์
วัคซีนป้องกันโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว อายุ 14 สัปดาห์
วัคซีนป้องกันโรคลิวคีเมีย และวัคซีนป้องกันโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบติดต่อ อายุ 16 สัปดาห์
วัคซีนป้องกันโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว อายุ 18สัปดาห์
วัคซีนป้องกันโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบติดต่อ อายุ 20สัปดาห์
- อาหารการกิน ควรให้เจ้านายอย่างถูกประเภท ไม่ควรให้อาหารของคนเพราะเมื่อสะสมในร่างกายจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคได้ง่าย
-
การขับถ่าย เรื่องการขับถ่ายก็สำคัญ บ้านไหนที่เลี้ยงแบบปิด ควรมีกะบะทรายแมวให้เพียงพอต่อการใช้งานของเหล่าเจ้านาย เพราะหากกะบะทรายไม่พอ จะทำให้เจ้านายเครียดได้ค่ะ เปลี่ยนและถ่ายเททรายแมวอย่างสม่ำเสมอไม่หมักหนม

กระบะทรายแมว600x400

8.เพศ
     ส่วนใหญ่ทาสแมว มักชอบเลี้ยงแมวเพศผู้ เพราะแมวจะไม่ท้อง!! แต่จริงๆ แล้วไม่ว่าจะแมวเพศใด ก็น่ารักทั้งหมดเลยค่ะ หากเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเลี้ยงแมวเพศเมีย แนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดลูกแมวตัวจิ๋ว คือการจับแมวทำหมันค่ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องบาปกรรม เพราะการทำหมันเป็นกลไกอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันทั้งโรคภัย ทั้งปัญหาสังคมลูกแมวถูกทิ้งต่าง ๆ ส่วนแมวเพศผู้ หากไม่อยากให้คึกคะนองวิ่งหายออกไปติดสัดนอกบ้าน การทำหมันจะช่วยให้เขาอยู่ติดบ้าน และลดอารมณ์เกรี้ยวกราดอยู่ร่วมกับสมาชิกในบ้านได้อย่างมีความสุขค่ะ
9.อายุ
     ทาสแมวส่วนใหญ่ มักรับแมวจรมาเลี้ยงทำให้ไม่ทราบแน่ชัดว่า แมวที่รับมานั้นมีอายุมากน้อยเท่าไหร่ และมักไม่ค่อยอยากรับเลี้ยงแมววัยรุ่น หรือแมวชราเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเข้ากับแมว หรือหมาที่เลี้ยงไว้อยู่ก่อนแล้วไม่ได้ ทาสแมวที่ต้องการรับเลี้ยงแมวจร จึงควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน ว่าบ้านของเรานั้นพร้อมหรือไม่ ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว พฤติกรรมของพวกเขาเป็นอย่างไร มีแนวโน้มไม่ต้อนรับสมาชิกใหม่ใช่หรือไม่ จากนั้นมาดูที่ช่วงอายุของแมวจรที่ต้องการรับเลี้ยงประกอบการตัดสินใจด้วยค่ะ โดยซักถามจากหน่วยงานที่ช่วยเหลือแมวจรให้ละเอียดถี่ถ้วน เมื่อองค์ประกอบผ่านทุกข้อ ก็รับแมวจรมาเป็นสมาชิกใหม่ได้เลยค่ะ
10.รับเลี้ยงแมวจรจัด
     ในยุคที่สื่อโซเชี่ยลเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย เป็นอีกช่องทางที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์จรจัดจะอวดโฉมน้องแมวตาดำๆ ไร้บ้าน เพื่อให้เหล่าทาสผู้ใจบุญรับไปดูแลต่อ เหล่าทาสแมวลองเช็คลิสต์ความพร้อมทั้งหมดนี้ และเลือกองค์กรช่วยเหลือแมวจรที่น่าเชื่อถือไว้ใจได้ หากมีความพร้อมในการรับเลี้ยงแน่นอน ก็ต้อนรับสมาชิกใหม่กันได้เลยค่า